ออกแบบรถด้วยตัวท่านเอง งาน IAA 2017 ไฮเดลเบิร์ก

ออกแบบรถด้วยตัวท่านเอง
งาน IAA 2017 ไฮเดลเบิร์กและคู่ค้าทางธุรกิจต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
ส่งมอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ

  • การนำเสนอแบบไลฟ์สดที่บูธจัดแสดงของ Mercedes-Benz: “ประกายแห่งสีสัน” สร้างความโดนเด่นให้กับรถยนต์สมาร์ทคาร์
  • บริษัท บอร์เบ็ท (BORBET) นำเสนอ รูปแบบการตบแต่งที่กำหนดได้ด้วยตัวท่านเอง
  • บริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค (Ritzi Lackiertechnik) ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่สามารถตบแต่งเองได้
  • เทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัลของไฮเดลเบิร์กที่ท่านสามารถออกแบบการตบแต่งได้เองสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ: หัวฉีดระบายอากาศ ขอบล้อวัดความเร็วรอบ ขอบล้ออัลลอยด์และอื่น ๆ
  • ไฮเดลเบิร์ก: คือส่วนหนึ่งของดิจิทัลแห่งอนาคตที่ท่านสามารถรูปแบบงานได้ดังใจตามแบบที่ต้องการแว่นตาเสมือนจริง (VR glasses) แสดงภาพงานที่เหมือนจริง ช่วยให้ง่ายในกำหนดรูปแบบงานง่ายขึ้น

p46-49_03

ชมการนำเสนอแบบไลฟ์สดการแสดงการพิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ดิจิทัลรุ่น Omnifire

บอร์เบ็ท (Borbet) นำเสนอการตบแต่งขอบงานด้วยอัลลอยด์โดยใช้เทคโนโลยีจากเครื่องพิมพ์ Omnifire ซึ่งแตกต่างจากวิธีการอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้การไล่โทนสีที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี

“รถยนต์แห่งอนาคตในรุ่นต่างๆ สามารถถูกสามารถปรับตบแต่งได้ตามทุกความต้องการของลูกค้า นั่นคือเหตุผลที่เราแสวงหาคู่ค้าที่สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาผสานรวมด้วยกันในกระบวนการผลิตแบบดิจิทัลของเรา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้” มร.กุนเทอร์ ริทซี่ (Günter Ritzi) กรรมการผู้จัดการของบริษัท ริทซี่ แลคเคียเทคนิค (Ritzi Lackiertechnik GmbH (www.ritzi-lackiertechnik.de) กล่าว

ในฐานะคู่ค้าด้านเทคโนโลยี ไฮเดลเบิร์กได้นำเสนอนวัตกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในงาน IAA 2017 ซึ่งได้จัดขึ้นในวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา ที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต โซลูชันดิจิทัลของไฮเดลเบิร์กที่จัดแสดงในงานนี้ จะช่วยในการปรับตบแต่งหรือแต่งเติมสีสันให้กับลูกค้ายานยนต์ ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น เช่น หน้าปัดมาตรวัดความเร็ว หัวฉีดระบายอากาศที่แต่งขอบล้อด้วยอัลลอยด์ และชิ้นส่วนอื่นๆ

การนำเสนอแบบไลฟ์สดที่บูธจัดแสดงของ Mercedes-Benz: “ประกายแห่งสีสัน” – การตบแต่งสีสันให้รถยนต์สมาร์ทคาร์ โดยใช้ระบบการพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ Omnifire 4D

p46-49_02

“ประกายแห่งสีสัน”: ผู้เยี่ยมชมบูธของ Mercedes-Benz ในงาน IAA  สามารถออกแบบการตบแต่งภายในรถยนต์สมาร์ทคาร์เองได้

ในวันนี้ รถสมาร์ทคาร์สองคันที่เหมือนกันจะไม่เหมือนกันอีกต่อไป ด้วย “ประกายแห่งสีสัน” รถสมาร์ทคาร์จะมีมุมมองใหม่โดยมีรูปแบบงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะส่วนบุคคลมากขึ้น โดยผู้ที่เข้าชมงาน IAA จะได้สัมผัสกับความเป็นดิจิทัลและเทคโนโลยีการพิมพ์ใหม่ๆ ที่เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการดีไซน์งานที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคล ในบริเวณเฉพาะจุดของชิ้นงาน หรือเป็นดีไซน์เฉพาะบนส่วนของพื้นที่ที่กำหนด โดยใช้ตัวอย่างเสมือนการตกแต่งภายใน

กระบวนการนี้เป็นทำงานในรูปแบบดิจิทัลตลอดกระบวนการ โดยเริ่มจากดร๊าฟแรกของการออกแบบงานที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคล ไปจนถึงส่วนของการตบแต่งในขั้นตอนสุดท้าย ประการแรกลูกค้าสามารถออกแบบชิ้นส่วนตบแต่งที่เลือกไว้สำหรับการตบแต่งภายใน (หัวฉีดระบายอากาศ, หน้าปัดเครื่องมือและส่วนติดต่อตัดต่อมัลติมีเดีย) ด้วยลวดลายของตัวเองในแอปพลิเคชันการตั้งค่าตบแต่ง แล้วภาพรวมของการออกแบบนี้สามารถดูได้ทันทีบนแท็บเล็ตและเทคโนโลยีในเสมือนจริง (Virtual Reality – VR) จากนั้นการออกแบบจะถูกเตรียมให้พร้อมสำหรับการพิมพ์และถูกพิมพ์เป็นสี รวมทั้งเอฟเฟคที่ลงบนพื้นผิวของชิ้นส่วนจริง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากโซลูชันดิจิทัลใหม่จากไฮเดลเบิร์ก ซึ่งได้ถูกรวมอยู่ในกระบวนการผลิตแบบดิจิทัล

ระบบการพิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ดิจิทัลของไฮเดลเบิร์กรุ่น Omnifire 250 4D เครื่องนี้ได้จัดแสดงที่บูธของ Mercedes FabLab (ชั้น 1) ที่บริเวณ Festhalle โดยผู้เข้าชมสามารถดูชิ้นผลงานที่กำลังถูกพิมพ์ตบแต่งอยู่ได้อย่างไลฟ์สดและได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์ 4D ของไฮเดลเบิร์กไปพร้อมกันการตบแต่งขอบชิ้นงานด้วยโลหะอัลลอยด์ ที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคล

บริษัท บอร์เบ็ท – BORBET (www.borbet.de, ฮอลล์ 4, บู๊ต CO8) คือผู้ผลิตล้ออัลลอยด์ซึ่งได้ร่วมงาน IAA ครั้งนี้ ได้จัดแสดงวิธีการผลิตโครงสร้างที่เบาและการตบแต่งพื้นผิวด้วยการพิมพ์สี และการเคลือบผิวเพื่อแสดงวิธีการสร้างผลงานล้อรถยนต์แห่งอนาคตว่าทำได้อย่างไร โดยบริษัทได้นำเสนอล้ออัลลอยด์ที่ถูกรังสรรค์ลวดลายด้วยการใช้เทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ Omnifire ซึ่งแตกต่างจากการตบแต่งด้วยวิธีการอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการไล่โทนสีที่ความซับซ้อนได้เป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีนี้ บริษัท บอร์เบ็ท จะช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดที่มียอดจำนวนน้อยแต่ต้องการการออกแบบที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคลได้มากยิ่งขึ้น

บริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนตบแต่งรถยนต์ที่ลูกค้าเลือกที่จะออกแบบเองได้

ไฮเดลเบิร์กได้มอบความไว้วางใจบริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค บริษัทผู้ผลิตผู้จัดจำหน่ายยานยนต์ ในฐานะพันธมิตรโดยการใช้เครื่องพิมพ์ Omnifire 1000 ด้วยบริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตบแต่งพื้นผิวที่เป็นนวัตกรรมสำหรับชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูง เช่นหน้าปัด มาตรวัดความเร็ว แถบสวิทช์ แดชบอร์ด และส่วนประกอบสำเร็จรูปอื่น ๆ สำหรับบรรดาผู้ผลิตรถยนต์หลายบริษัท โดยทางบริษัทได้ใช้วิธีการและเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน โดยบริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิคจะผสานการทำงานของ Omnifire 1000 เข้ากับกระบวนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม เพื่องานตบแต่งรูปแบบงานที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น “ประกายแห่งสีสัน” และชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆในภายหลังที่มีลวดลายหลากหลายรูปแบบ“เราใช้เวลานานในการค้นหาวิธีการที่จะช่วยให้เราสามารถตอบโจทย์ที่เข้มงวดของลูกค้าในการตบแต่งอุปกรณ์เสริมภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของคุณภาพ ความยืดหยุ่น และค่าใช้จ่าย และไฮเดลเบิร์กเป็นคู่ค้าที่สามารถจัดหานวัตกรรม ที่น่าสนใจต่างๆ ดังเช่นเทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ Omnifire 1000 ที่ผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยีของเราได้อย่างดี” มร. กุนเทอร์ ริทซี่ กล่าว

ที่งาน IAA 2017 ไฮเดลเบิร์กร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ในฐานะผู้ส่งมอบบริการด้านเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และได้แสองผลงานแห่งอนาคตที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคล การเพิ่มประสิทธิภาพการพิมพ์ดิจิทัลสำหรับงานอุตสาหกรรมเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับเรา เรามีความชำนาญและมีเทคโนโลยีในการออกแบบโลกในแบบของท่าน และสามารถสนับสนุนลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมในการสร้างโมเดลธุรกิจดิจิทัลของพวกเขา” ดร. อุลริช เฮอร์แมน (Dr. Ulrich Hermann) สมาชิกกรรมการบริหารบริษัทรับผิดชอบบริหารธุรกิจดิจิทัลและการบริการของไฮเดลเบิร์กกล่าว

p46-49_05

บริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค (Ritzi Lackiertechnik) ได้ผสานเทคโนโลยี Omnifire เข้ากับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการตบแต่งชิ้นส่วนต่างๆ เช่นการตกแต่งภายในรถด้วยลวดลายสีสัน มร. โธมัส วิทแมน (Thomas Wittmann)หัวหน้าฝ่ายขายของบริษัท ริทซี่ แลคเคียเทคนิค กล่าวว่า “เทคโนโลยีของไฮเดลเบิร์กทำให้เราได้พบพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชาญฉลาดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านคุณภาพ ความยืดหยุ่นและต้นทุน”

เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์กรุ่น Omnifire 1000 และรุ่น 250 สามารถพิมพ์บนสิ่งของเกือบทุกรูปทรงและพิมพ์ลงบนวัสดุหลากหลายชนิดได้

ความเป็นไปได้ในการตบแต่งสินค้าที่ผลิตจำนวนมากในระดับอุตสาหกรรมที่เน้นคุณภาพสูงอีกทั้งยังเพิ่มไลน์ธุรกิจสำหรับตลาดที่ผู้บริโภคมีความต้องการรูปแบบงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะส่วนบุคคล ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ ที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ดียิ่ง อาทิ ด้านยานยนต์และในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 4D จากไฮเดลเบิร์ก: ระบบ Omnifire 1000 และ 250 สามารถใช้สำหรับการพิมพ์งานที่มีรูปแบบงานเฉพาะบุคคลตามแบบที่กำหนดได้เอง และตบแต่งสีและลวดลาย บนวัตถุสามมิติเกือบทุกรูปทรงได้ และบนวัสดุหลากหลายชนิด ได้ตามความต้องการ เช่น บนลูกบอล ขวด ไม้ฮ็อกกี้ รถยนต์และชิ้นส่วนเครื่องบิน หรือแม้กระทั่งจะเป็นเครื่องบินทั้งลำ โดยระบบการพิมพ์ของไฮเดลเบิร์กสามารถผสานรวมเข้ากับกระบวนการผลิตดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ ในทางปฏิบัติได้ ทางไฮเดลเบิร์กได้นำเสนอเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในงาน InPrint 2015 ที่เมืองมิวนิค และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาได้มีการพัฒนาระบบอิงค์เจ็ทเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ไฮเดลเบิร์กพยายามผลักดันการทำงานด้วยระบบดิจิทัลและขยายขอบข่ายโครงสร้างการพิมพ์ดิจิทัลให้เพิ่มเติมกว้างมากขึ้น

ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 4D ที่งาน IAA ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ไฮเดลเบิร์กได้ตอกย้ำถึงความสำเร็จของบริษัทในการก้าวสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ “Heidelberg goes Digital” ไฮเดลเบิร์กยังค่อยๆ ขยายขอบข่ายโครงสร้างของระบบให้กว้างมากขึ้น โดยไฮเดลเบิร์กได้เริ่มจัดทำระบบดิจิทัลระดับอุตสาหกรรมและการพิมพ์ดิจิทัล โดยเริ่มให้ความสำคัญตั้งแต่งานดรูป้า 2016 โดยในงานนี้ บริษัทได้นำเสนอ Smart Print Shop อีกทั้งยังได้นำเสนอเครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลของไฮเดลเบิร์กรุ่น Primefire 106 ในงาน และไฮเดลเบิร์กได้นำเสนอระบบการพิมพ์ดิจิทัลเครื่องแรกสำหรับการพิมพ์งานพิมพ์ที่มีรูปแบบเฉพาะส่วนบุคคลในขนาดงานพิมพ์ 70 x 100 โดยความร่วมมือกับบริษัท ฟูจิฟิล์ม ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาเทคโนโลยี

การกำหนดรูปแบบงาน โดยการใช้แว่นตาเสมือนจริง (VR glasses) ตรวจเช็คเพื่อให้ได้ภาพงานที่เหมือนจริง

บริษัท ริทซี่ แล็คเคียเทคนิค (Ritzi Lackiertechnik) ได้ผสานเทคโนโลยี Omnifire เข้ากับอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อการตบแต่งชิ้นส่วนต่างๆ เช่นการตกแต่งภายในรถด้วยลวดลายสีสัน มร. โธมัส วิทแมน (Thomas Wittmann)หัวหน้าฝ่ายขายของบริษัท ริทซี่ แลคเคียเทคนิค กล่าวว่า “เทคโนโลยีของไฮเดลเบิร์กทำให้เราได้พบพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชาญฉลาดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านคุณภาพ ความยืดหยุ่นและต้นทุน”

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า