เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคประจำปี 2566

เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคประจำปี 2566

โดย เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชันการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก

เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชันการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก ได้นำเสนอรายงานฉบับล่าสุดเทรนด์ดิพิเดีย 2566 ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาเกี่ยวกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคประจำปี 2566 โดยในปีนี้ เต็ดตรา แพ้ค เน้นย้ำ 4 เทรนด์หลักที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เทรนด์หลักที่ยังมีส่วนคล้ายคลึงกันกับปีที่ผ่านมา คือ In Control ซึ่งแสดงถึง ความต้องการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ในด้านสุขภาพ

โดยใช้อาหารและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพให้เข้ามามีบทบาท และมีเทรนด์ที่แตกต่างไปอย่าง Flexi-shopping ที่ผู้คนใช้จ่ายเงินไปกับการเลือกซื้อของอย่างรู้คุณค่ามากยิ่งขึ้น Eatertainment ชุมชนออนไลน์ที่สนุกไปกับการสร้างสรรค์และนำเทรนด์อาหารใหม่ ๆ และ Local Reclaimed การกลับเข้าหาผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยและสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นไปพร้อม ๆ กัน

ในช่วงปี 2566 เป็นปีที่มีสถานการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งล้วนส่งผลถึงพฤติกรรมโดยรวมของผู้บริโภคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารเพิ่มขึ้นสูง ความตระหนักและให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลให้มีการค้นหาออนไลน์ของสินค้าที่ส่งเสริมความยั่งยืนเพิ่มสูงขึ้นถึง 71% ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะในแง่ของสุขภาพ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งที่เลือกซื้อมากขึ้น โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ราคา และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังเริ่มหันไปเลือกซื้อสินค้าและวัตถุดิบพื้นบ้านจากชุมชนมากยิ่งขึ้น ภาคอุตสาหกรรมจึงควรจัดหาสินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค หรือสนับสนุนการใช้วัตถุดิบจากแหล่งชุมชนและเกษตรกรมากยิ่งขึ้น เทรนด์หลักในปีนี้ ที่ยังมีความสอดคล้องกันกับเทรนด์ในปี 2565 ได้แก่

  1. In Control สะท้อนถึงการที่ผู้บริโภคเลือกรับประทานอาหารเพื่อเป็นการเลือกสรรและควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตมากขึ้น ผู้บริโภคจะเลือกจับคู่อาหารหรืออาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และเหมาะสมกับความต้องการทางสุขภาพส่วนบุคคล ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์หรือช่วงอายุต่าง ๆ ของชีวิต อีกทั้ง ผู้บริโภคยังใช้โซลูชันเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ ในการสังเกตและคาดการณ์สุขภาพโดยรวมของตน ทำให้ยิ่งมีความรอบคอบในสิ่งที่บริโภคมากขึ้น แบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม จึงควรสื่อสารกับผู้บริโภคถึงคุณค่าและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ลงบนกล่องบรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจนและเรียบง่าย หรือหากมีคิวอาร์โค้ดที่ช่วยตรวจข้อมูลทางโภชนาการ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความรู้สึกแห่งการเลือกสรรและควบคุมได้ต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น
  2. Flexi-Shopping อิสรภาพในการเลือกชอปที่ยืดหยุ่นมากขึ้นตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้คนเลือกซื้ออาหารอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงราคาและคุณค่าที่เหมาะกับตนเองอย่างสูงสุด
  3. Eatertainment ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน สังคมหรือชุมชนออนไลน์ ที่นำโดยครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทในด้านการสร้างสรรค์ หรือนำเทรนด์เมนูอาหารใหม่ ๆ เป็นอย่างมาก ทำให้การทำอาหารทานเองหรือเลือกซื้ออาหาร กลายเป็นเรื่องที่สนุกและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้บริโภค
  4. Local Reclaimed เมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจท้องถิ่นมากขึ้น เครือข่ายระหว่างชุมชนจึงแน่นแฟ้นมากกว่าที่เคย แบรนด์ที่ส่งผลดีต่อชุมชนท้องถิ่นจะกลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นขึ้น

รายงาน ‘เทรนด์ดิพิเดีย’ ของเต็ดตรา แพ้ค ได้ระบุถึงเทรนด์หลัก 10 เรื่องสำหรับปี 2566 นี้ ได้แก่

  1. เคล็ดลับเพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น (Life Hacks)
  2. อิสรภาพในการเลือกชอป (Flexi-shopping)
  3. ชีวิตที่ควบคุมได้ (In Control)
  4. พักเพื่อเติมเต็มและซ่อมแซม (Replenish and Repair)
  5. แนวคิดเพื่อสภาพอากาศ (Climatarianism)
  6. ความชัดเจนสีเขียว (Green Clarity)
  7. เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง (Un-masking Identities)
  8. มุ่งสนับสนุนท้องถิ่น (Local Reclaimed)
  9. ชีวิตที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด (Evolving Spaces)
  10. ทุกมื้อคือความสนุก (Eatertainment)

ที่มา: เต็ดตรา แพ้ค

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า